กกเค้าของคำว่า
ลาว กำเนีดมาจากใส เปันหยังจื่งเอี้นว่า
ลาว บันหาดั่งก่าวบ่อสามาดยั้งยื่นได้แน่นอน แต่ได้มีนักปะหวัดสาดหลายท่านให้ทัดสะนะแตกต่างกันดั่งนี้
- ในพงสาวะดานชาดไทของหลวงวิจิดวาทะกานได้ก่าวไว้ว่า ลาว มาจากคำว่า ลัวะ หรือ ละว้า เชิ่งเปันชื่อของคนชาดหนื่งที่ตั้งถิ่นถานในแห่งนี้มาก่อน
- ในหังสือขุนบูรมราชาทิลาดก่าวไว้ว่า ชนชาดลาวเราเกีดมาจากหมากน้ำเต้าปุง เชิ่งคำบาลีเอี้นหมากน้ำเต้าว่า ลาวุ ดั่งนั้นคนลาวจื่งเอี้นนามตนเองว่า ลาว ตามชื่อของหมากน้ำเต้า
- พะยาอานุมาน ราชะทน ได้ก่าวไว้ในเลื่องชาดไทว่า ก่อนจะมีชื่อ ลาว แม่นมีเลื่องก่าวไว้ดั่งนี้
แต่ก่อนมีคนกุ่มหนื่งตั้งถิ่นถานอยู่ล้องน้ำของข้างพูเขาในเขดมนทนเสสวนของจีนทุกวันนี้ ในกุ่มคนพวกนี้มียังคนหนื่งมีลูกชาย
9 คน นางได้ไปส้อนเอาปาเลียบตามแคมฝั่งแม่น้ำของ และ ในขะนะนั้นปากดมีขอนไม้เปันเกัดชาๆมาพาดเอาขาของนาง ต่อมานางก่อได้ถือพา แล้วให้กำเนีดลูกชายคนที
9 เมื่อลูกชายใหย่พอแล่นได้ นางก่อพาลูกทั้ง
9 คนไปส้อนปาเลียบตามแคมฝั่งอีก ในขะนะนั้นได้มีนากโตหนื่งร้องมาถามนางว่า ลูกเราอยู่ใส นางมีความตกใจจื่งร้องขื้นว่า เก้าหล้ง แล้วก่อแล่นหนีไปกับลูกผู้ใหย่ ส่วนลูกผู้น้อยคนที
9 บ่อสามาดแล่นหนีทัน นากโตนั้นก่อเลียแลบลี้นเลยหลังเดักชายคนนั้น เมื่อชายทัง
9 ใหย่ชื้นมาและมีคอบคัวหมดทุกคน คนที
9 ผู้มีปันยาสะหลาดกว่าหมู่ และ ได้เปันหัวหน้าปกคองหมู่สืบมา ในพงสาวะดานจีนเอี้นชายทั้ง
9 นี้ว่า พวกลี และ เอี้นเมืองขื้นของพวกนี้ว่า ปะเทดจก ในละหว่างปีก่อน
พส 2055 ปะเทดพวกลี
9 เมืองเชี่งเปันอ้ายน้องกันได้ทำสงคามกับจีนเปันกานใหย่ ดั่งคำที่ว่า
หล้ง กบ
ลี คงแม่นคำเดียวกัน ต่อมา ลี เลียเปลี่ยนมาเปัน
ลุง และมาเปัน
ลวง ต่อมาเปัน
ลาว
- มีหลายท่านนักปาดได้ให้ทัดสะนะคำว่า ลาว แม่นคำเดียวของคำว่า ดาวเนื่องจากว่าคนลาวดำเนีนชีวิดอยู่บ่อนสูง และ มีวัดทะนะทำจะเลีนกว่าพวกจีน จื่งถึกเอี้นว่า พวดดาว หรือ เทียน แถน ไท้ เชิ่งมีความหมายว่าฟ้า ดั่งเดียวกัน เมื่อพวกจีนมาพบพ้อ จื่งเหันว่า พวกลาวที่มีวัดทะนะทำสูงกว่า มีรีดคองปะเพนีอันดีงาม จื่งยกย้อง และ นับถือ และ เอี้นกุ่มคนลาวว่า อ้ายดาว แต่ด้วยเหดว่า คนจีนสะกดเสียวตัว ด บ่ชัดเจน สะนั้นคำว่า ด จื่งออกเปัน ล คำว่า อ้ายดาว จื่งมาเปัน อ้ายลาว ในไลยะต่อมา เมื่อสังลวมเบี่งทัดสะนะอีงตามเหดผนคำสับสำนวนเหันว่าทัดสะนะที 4 พอเปันตาหน้าเชื่อถือได้